Browse By

Monthly Archives: September 2025

วิวัฒนาการงานภาพ Street Fighter จาก 2D Pixel → 2.5D → 3D สมจริง

วิวัฒนาการงานภาพ Street Fighter จาก 2D Pixel → 2.5D → 3D สมจริง จากเกมอาร์เคดสู่ตำนานภาพ ซีรีส์ Street Fighter ไม่เพียงสร้างชื่อจากระบบการต่อสู้ที่ลงตัว แต่ “งานภาพ” เองก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เกมครองใจแฟน ๆ มาหลายสิบปี หากเรามองย้อนกลับไปจะเห็นว่า Street Fighter เดินทางจากภาพ Pixel 2D ที่หยาบแต่มีเสน่ห์ ไปสู่ 2.5D ที่ผสมระหว่างมิติใหม่กับรากฐานเก่า และสุดท้ายก้าวเข้าสู่โลก 3D สมจริง ที่ใช้เอนจินทันสมัยอย่าง RE Engine การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ไม่เพียงตอบโจทย์ผู้เล่นยุคใหม่ แต่ยังสะท้อนให้เห็นว่าซีรีส์นี้ไม่เคยหยุดพัฒนา ยุค 2D Pixel: จุดกำเนิดความคลาสสิก (1987–1999) Street

การเปลี่ยนแปลงของระบบ การเล่นในแต่ละภาค

การเปลี่ยนแปลงของระบบ การเล่นในแต่ละภาค บทนำ: จาก 1987 ถึงปัจจุบัน ซีรีส์ Street Fighter ไม่เพียงเป็นตำนานเกมต่อสู้ที่ยืนยาวกว่า 30 ปี แต่ยังเป็นผู้นำในการสร้างนวัตกรรมด้านระบบเกมเพลย์ ทุกภาคมีการปรับปรุง เพิ่ม และเปลี่ยนแปลงให้สอดคล้องกับยุคสมัย ความสำเร็จของแฟรนไชส์นี้ไม่ได้มาจากชื่อเสียงเพียงอย่างเดียว แต่เพราะ Capcom รู้จักสร้างสมดุลระหว่าง “ความคุ้นเคย” และ “ความแปลกใหม่” Street Fighter (1987): จุดเริ่มต้น รีวิวลูกค้า:“ตอนเด็กผมเล่นภาคแรก รู้สึกยากมาก ท่า Hadouken กดแทบไม่ติด แต่ก็ตื่นเต้นที่ได้เห็นอะไรใหม่ ๆ” — คุณแมน, 36 ปี Street Fighter II (1991): การปฏิวัติวงการ รีวิวลูกค้า:“ผมจำได้ว่าต้องต่อคิวเล่นที่ร้านเกม SFII

Street Fighter Online Mouse Generation – ภาคออนไลน์

Street Fighter Online Mouse Generation – ภาคออนไลน์สุดแปลกจาก Capcom บทนำ: เมื่อ Capcom ลองคิดนอกกรอบ ซีรีส์ Street Fighter มีชื่อเสียงมายาวนานในฐานะเกมต่อสู้ที่ยืนหนึ่งในวงการ แต่ Capcom เองก็เคยสร้างภาคแปลก ๆ ที่ไม่ค่อยมีใครพูดถึงมากนัก หนึ่งในนั้นคือ Street Fighter Online: Mouse Generation (2008) เกมออนไลน์ที่ถูกพัฒนาสำหรับเครื่อง PC ในญี่ปุ่น โดยมีจุดขายสุดแหวกคือ การควบคุมด้วยเมาส์ เพื่อลดความซับซ้อนของการกดปุ่ม และทำให้ผู้เล่นเข้าถึงได้ง่ายขึ้น แม้จะเป็นการทดลองที่ไม่ประสบความสำเร็จนัก แต่ก็ถือเป็นภาคที่แฟน ๆ จดจำว่า “แปลกที่สุด” ของซีรีส์ จุดกำเนิด: ทำไมต้องใช้เมาส์? ไอเดียหลัก เป้าหมาย

Street Fighter Puzzle Fighter & Pocket Fighter – ภาคเบาสมองที่ยังน่ารัก

Street Fighter Puzzle Fighter & Pocket Fighter – ภาคเบาสมองที่ยังน่ารัก เมื่อเกมไฟท์ติ้งกลายเป็นความน่ารัก ซีรีส์ Street Fighter มักถูกจดจำว่าเป็นเกมไฟท์ติ้งที่จริงจัง มีการต่อสู้ดุเดือดและเต็มไปด้วยกลยุทธ์ แต่ในช่วงกลางยุค 90 Capcom ได้เลือกทางที่แตกต่างออกไป พวกเขาสร้างเกมที่เปลี่ยนบรรยากาศความเข้มขรึมให้กลายเป็นความน่ารัก สดใส และเบาสมอง จนเกิดเป็นสองภาคที่แฟน ๆ ยังพูดถึงอยู่เสมอคือ Super Puzzle Fighter II Turbo (1996) และ Pocket Fighter (1997) หรือที่ญี่ปุ่นเรียกว่า Super Gem Fighter Mini Mix เกมเหล่านี้ไม่เพียงแต่สร้างเสียงหัวเราะ แต่ยังทำให้ Street Fighter

Street Fighter The Movie (Game) – ภาคที่ถูกวิจารณ์มากที่สุด

Street Fighter The Movie (Game) – ภาคที่ถูกวิจารณ์มากที่สุด จากเกมสู่หนัง และจากหนังกลับมาเป็นเกม ปี 1994 คือปีที่แฟรนไชส์ Street Fighter ถูกผลักดันออกจากวงการเกมไปสู่สื่อบันเทิงอื่น ๆ Capcom จับมือกับ Hollywood เพื่อสร้าง Street Fighter: The Movie ที่นำแสดงโดย Jean-Claude Van Damme (ในบท Guile) และ Raul Julia (ในบท M. Bison) แม้ภาพยนตร์จะถูกวิจารณ์อย่างหนัก แต่สิ่งที่น่าสนใจกว่าคือ Capcom ยังตัดสินใจสร้างเกมที่อิงจากหนังเรื่องนี้ด้วย ผลลัพธ์ก็คือ Street Fighter: The Movie

Street Fighter vs X-Men / Marvel vs Capcom

Street Fighter vs X-Men / Marvel vs Capcom จุดกำเนิดของเกมครอสโอเวอร์ในตำนาน บทนำ: เมื่อสองจักรวาลโคจรมาพบกัน ยุค 90 เป็นช่วงที่โลกเกมอาร์เคดกำลังรุ่งเรือง และแฟน ๆ ทั่วโลกเริ่มมองหาสิ่งใหม่ ๆ ที่มากกว่าเกมไฟท์ติ้งธรรมดา Capcom ซึ่งเป็นเจ้าของซีรีส์ Street Fighter ที่โด่งดังอยู่แล้ว จึงตัดสินใจจับมือกับ Marvel Comics เพื่อนำเหล่าซูเปอร์ฮีโร่และวายร้ายจากจักรวาลการ์ตูนชื่อดังมาดวลกับนักสู้สายสตรีท ผลลัพธ์ก็คือการกำเนิดของ Street Fighter vs X-Men (1996) และต่อยอดสู่ซีรีส์ Marvel vs Capcom ที่กลายเป็นตำนานเกมครอสโอเวอร์มาจนถึงปัจจุบัน จุดเริ่มต้น: X-Men vs Street Fighter (1996)